สาระนักช็อป

ช็อปออนไลน์อย่างไรให้ฉลาด

เขียนโดย Smile-Shopping Admin เมื่อวันที่

ช็อปออนไลน์อย่างไรให้ฉลาด ❓ ❌ สิ่งที่นักช็อปออนไลน์ทุกคนเป็นกังวลมากที่สุด คือคุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า จะไม่โดนหลอกจากเว็บไซต์ที่เราสั่งซื้อสินค้าและข้อความที่เป็นข้อมูลส่วนตัวของคุณจะถูกเปิดเผยแก่บุคคลอื่นหรือไม่ ลองทำตามคำแนะนำง่ายๆ ของเราที่จะช่วยให้คุณมั่นใจทุกครั้งในการซื้อสินค้าออนไลน์  ❌ . 💫 ความน่าเชื่อถือของร้านค้า 💫 👇 ก่อนที่จะตัดสินใจควักเงินในกระเป๋าให้กับร้านค้าที่คุณไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักมาก่อน ลองเสียเวลาของคุณสักเล็กน้อย เพื่อทำความรู้จักกับร้านค้าให้มั่นใจว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน สำรวจข้อมูลเบื้องต้นของร้านค้าว่ามีชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีที่เกิดปัญหาหรือไม่ ✅ ลองสำรวจเว็บไซต์นั้น จากความคิดเห็นของผู้ซื้อสินค้ารายอื่นที่มีต่อร้านค้า รวมไปถึงการให้คะแนนในการบริการของเจ้าของร้านด้วย ✅ ดูบทสนทนาตอบโต้ระหว่างร้านค้ากับผู้ซื้อ ว่าการสื่อสารนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นหรือไม่ และบทสรุปของบทสนทนานั้นจบลงเช่นไร ✅ มองหานโยบายความรับผิดชอบของร้านค้า เช่น การคืนเงินค่าสินค้า การส่งคืนสินค้า หากไม่มีนโยบายดังกล่าว ให้ผู้ซื้อเป็นฝ่ายสอบถามร้านค้าว่ามีระยะเวลาในการส่งสินค้านานเท่าไร ✅ . 💫 ข้อมูลของสินค้า 💫 👇 หลังจากที่คุณพิจารณาความน่าเชื่อถือของร้านค้าแล้ว ขั้นตอนต่อมาที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษคือ ข้อมูลของสินค้า ซึ่งบางร้านมีการอวดอ้างสรรพคุณที่เกินจริง มีการตั้งราคาสูงเกินไป ซึ่งอาจทำให้ผู้ซื้อเสียเงินไม่คุ้มค่ากับสินค้าที่ได้มา สินค้าที่มีมูลค่าสูง หรือเป็นสินค้าหายาก ย่อมเป็นที่ต้องการในคนหมู่มาก เช่น สินค้าไอที อัญมนี ฯลฯ สินค้าเหล่านี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการสั่งซื้อ เนื่องจากคุณไม่เห็นหรือสัมผัสสินค้าด้วยตัวเอง คุณควรตรวจสอบข้อมูลของสินค้านั้นให้แน่ชัดเสียก่อน รวมถึงการรับประกันสินค้าด้วย ✅ ในกรณีที่สินค้ามีราคาแพง ผู้ซื้อควรนัดพบกับร้านค้าโดยตรง ไม่ควรเสี่ยงโอนเงินเป็นจำนวนมาก เพราะหากเมื่อมีการโอนเงินธนาคารไปแล้ว และปรากฎว่าไม่ได้รับสินค้า ทางธนาคารไม่สามารถอายัดเงินจำนวนดังกล่าวได้ นั่นหมายความว่าคุณอาจเสียเงินฟรี โดยไม่ได้สินค้า ✅ สอบถามให้มั่นใจก่อนว่าสินค้าที่สั่งซื้อนั้นเป็นของแท้หรือไม่ มีตำหนิตรงไหนบ้าง เช่น ของสะสม ของที่ระลึก เป็นต้น ✅ ควรตรวจสอบราคาสินค้าจากหลายๆ เว็บไซต์ รวมไปถึงวัสดุของชิ้นงาน เพื่อให้ได้สินค้าดีและถูกที่สุด ✅ อย่าเห็นแก่ราคาสินค้าที่ถูกเกินไปจนรีบกดสั่งซื้อ โดยไม่ได้ศึกษารายละเอียดก่อน เพราะสินค้าประเภทนี้จะมีการกำหนดเวลาในการซื้อ – ขายที่ค่อนข้างเร็ว ซึ่งอาจทำให้ผู้ซื้อตกเป็นเหยื่อได้ ✅ หลังจากที่คุณสั่งซื้อสินค้าไปแล้ว อย่าลืมอ่านเงื่อนไขและข้อมูลที่ทางร้านแจ้งให้ทราบ โดยละเอียด และควรพิมพ์หน้าสุดท้ายที่เป็นยอดสรุปข้อมูลการสั่งซื้อสินค้าทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ✅ . 💫 ความผิดปกติในการส่งสินค้า 💫 👇 ข้อควรระวังหากสินค้าที่คุณสั่งซื้อเริ่มมีสัญญาณเตือนเป็นลางบอกเหตุว่าคุณอาจไม่ได้รับสินค้า หรืออาจเสียตังค์ฟรี...

อ่านเพิ่มเติม →


คนรุ่นใหม่เลือกช้อปแบบไหน

เขียนโดย Smile-Shopping Admin เมื่อวันที่

🛍 คนรุ่นใหม่เลือกช้อปแบบไหน ❓ 👉 กลุ่ม Millennials (มิลเลียนเนียล) หรือคน Gen Y คือกลุ่มคนที่มีอายุประมาณ 18-34 ปี คนกลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่ค่อนข้างสูง ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง และร้านค้าออนไลน์ควรทำความเข้าใจกับผู้ซื้อกลุ่มนี้เพื่อสร้างโอกาสในการเจาะตลาด โดยเฉพาะการตลาดบนโทรศัพท์มือถือ เพราะคนกลุ่ม Millennials จะมีความรู้ในด้าน IT ค่อนข้างสูง ทันโลก และกล้าซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยบริษัท Blackhawk Engagement Solutions จากสหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาพฤติกรรมการซื้อสินค้าของคนกลุ่ม  Millennials  เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่ม  Millennials  ได้ง่ายๆ ดังนี้ . สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์หลักในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 📲 👉 คนกลุ่ม Millennials ใช้สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสูงถึง 89 เปอร์เซ็นต์ ใช้แล็ปท็อปหรือโน๊ตบุ๊คในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 75 เปอร์เซ็นต์ ใช้แท็บเล็ตในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 45 เปอร์เซ็นต์ และใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 37 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ร้านค้าทั้งหลายต้องมีการตลาดบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อเข้าถึงและเจาะตลาดผู้บริโภคกลุ่มนี้โดยเฉพาะ 📱💻 . โซเชียลมีเดียคือแหล่งข้อมูลของนักช้อปปิง 🛍 👉 เมื่อพวกเขาใช้สมาร์ทโฟนในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การใช้โซเชียลเพื่อหาข้อมูลสินค้าหรือโปรโมชั่นใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องปกติมากๆ สำหรับคนกลุ่ม  Millennials  สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการโฆษณาผ่านทางสื่อโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์ มีโอกาสถูกโฆษณาในรูปแบบดิจิตอลนำหน้าไปเรื่อยๆ 📺🗞 . กลุ่ม Millennials อ่อนไหวกับราคาอย่างแรง 💸 👉 ช่วงที่เว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์จัดโปรโมชั่นโดนใจ เช่น ลดราคาต้อนรับปีใหม่ หรือลดล้างสต็อก ผู้บริโภคกลุ่ม Millennials จะให้ความสนใจและส่งอิทธิพลต่อการชำระเงินสูงมากๆ ซึ่งหากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีแบรนด์ มีภาพตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน เป็นสินค้าที่มีความต้องการอยู่แล้ว คนกลุ่มนี้จะสามารถเปรียบเทียบราคาปกติและราคาพิเศษเพื่อตัดสินใจได้ทันทีว่าคุ้มค่าหรือไม่ และควรซื้อหรือเปล่า 🔖🏷 . ชื่นชอบการไปรับสินค้าเอง แล้วมีส่วนลดให้ 🔖 👉 กลุ่มคน  Millennials กว่า 88 เปอร์เซ็นต์...

อ่านเพิ่มเติม →


ช้อปปิ้งออนไลน์ ช่วยประหยัดเงินนะ

เขียนโดย Smile-Shopping Admin เมื่อวันที่

  💸 ช้อปปิ้งออนไลน์ ช่วยประหยัดเงินนะ ❗ 💴🛍 หนทางแรกของการมีเงินเหลือก็คือการประหยัดเงิน การประหยัดได้หนึ่งบาทเทียบได้กับการหาเงินได้หนึ่งบาท ทุกวันนี้คนเราจึงแสวงหาทนทางที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ ลงทั้งการใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาอย่างประหยัด ซื้อของที่จำเป็นและลดการฟุ่มเฟือย คนที่มัธยัถส์และรู้จักการใช้เงินเรียกได้ว่าเป็นคนที่วางแผนการเงินเป็น รู้ว่าอะไรควรซื้ออะไรไม่ควรซื้อ ในยุคที่เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทั้งการพัฒนาด้านความเร็วและการให้บริการของร้านค้าต่าง ๆ ผ่านระบบเว็บไซต์ จึงทำให้คนนิยมมาช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น และยิ่งมากขึ้นอีกเมื่อระบบสมาร์ทโฟนได้เข้าถึงกลุ่มคนทุกระดับ ทำไมคนจึงนิยมช้อปปิ้งออนไลน์กัน และมีวิธีการอย่างไร ต้องระมัดระวังอะไรบ้างในการ ช้อปปิ้งออนไลน์  💴🛍 . 👍 ข้อดีของการช้อปปิ้งออนไลน์ 📲 💻🚕 การซื้อสินค้าผ่านระบบอินเทอร์เน็ตให้ความสะดวกอย่างมาก ในด้านของการประหยัดเวลา ประหยัดค่าเดินทางไม่ต้องออกไปหาสินค้าเอง ยิ่งเป็นสินค้าที่หายากหรือเป็นของสะสมด้วยแล้วยิ่งไม่มีการวางจำหน่ายตามร้านทั่วไปแน่นอน ดังนั้นผู้ซื้อจะมีโอกาสได้หาของสะสมที่หายาก เช่น CD เพลงเก่า หนังสือเก่า หนังสือการ์ตูน ตุ๊กตา โมเดล ตลอดจนของมือสองอื่น ๆ ประโยชน์ที่ชัดเจนคือได้ของดีราคาถูกจากผู้ขายโดยตรง สามารถเลือกเปรียบเทียบราคาสินค้าชนิดเดียวกันได้ แม้กระทั่งของใช้แบรนด์เนมก็ยังมีการนำมาขายผ่านระบบออนไลน์กัน 💻🚕   🏬🛍 เว็บไซต์ที่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือ ebay.com ซึ่งค้าขายกันในระดับอินเตอร์ในขณะที่เว็บไซต์อย่าง Aliexpress ก็เป็นคลื่นลูกใหม่ที่กำลังตามกันมา ในประเทศไทยก็มีเว็บไซต์อย่าง Kaidee.com หรือ Lazada.co.th รวมถึงการนำเสนอขายของเองจากห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Central.co.th ที่ให้บริการรับส่งของถึงหน้าบ้าน มีระบบจ่ายเงินให้เลือกหลายแบบทั้งผ่านบัตรเครดิต โอนเงินธนาคาร หรือรอจ่ายเงินเมื่อได้รับของ ซึ่งให้ความสะดวกกับผู้ซื้ออย่างแท้จริง เพราะบางครั้งไปเดินห้างสาขาใกล้บ้านก็อาจจะยังไม่พบรุ่นของสินค้าที่ตรงใจเท่ากับที่ได้พบจากเว็บไซต์ของห้างเดียวกันก็มี เมื่อมีการเปรียบเทียบราคากันได้ ก็ทำให้เกิดการปรับราคาขึ้นลงที่เหมาะสมตามกลไกตลาด ประโยชน์ก็ตกอยู่กับผู้บริโภคทั่วไป การที่ห้างใหญ่ลงมาจับตลาดการช้อปปิ้งออนไลน์เพราะเล็งเห็นความสำคัญของช่องทางการขายแบบใหม่ที่จะเติบโตมากขึ้นอีกในอนาคต เพราะมีกลุ่มลูกค้าอีกจำนวนมากที่ต้องการซื้อของเพียงบางชิ้นและไม่มีเวลาไปซื้อเองที่ห้างสรรพสินค้าเพราะไม่อยากเสียเวลาวนหาที่จอดรถซึ่งสิ้นเปลืองเวลาและค่าน้ำมัน  🏬🛍 . 🛒 ช้อปปิ้งออนไลน์ไม่ใช่เรื่องราคาถูกเท่านั้น 🛍 📇💷 แม้ว่าการช้อปปิ้งออนไลน์จะมีประโยชน์หลายอย่าง รวมถึงโอกาสที่จะได้สินค้าราคาถูก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีความปลอดภัยเสมอไป เมื่อเทียบกับการช้อปปิ้งที่ร้านค้าจริง เรายังสามารถจับต้องสินค้าตรวจสอบสภาพให้แน่ใจก่อนจ่ายเงิน แต่เมื่อเป็นการช้อปปิ้งออนไลน์เราจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัลจึงมีระบบประกันสินค้า 14 วันหลังการซื้อ หากการใช้งานมีปัญหาสามารถเคลมได้ แต่ก็หมายถึงต้องเสียเวลาในการติดต่อเพื่อเคลม จากประสบการณ์ผู้เขียนเคยซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาจากห้างนี้ก็ได้คุณภาพดีไม่มีปัญหาอะไรต้องเคลม สิ่งที่ต้องระวังมากกว่าคือการซื้อขายของจากบุคคลธรรมดาจากเว็บไซต์ตัวกลางมากกว่า เพราะมีหลายกรณีที่ซื้อของจ่ายเงินแล้วได้รับของที่ไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ หรือโดนแม้กระทั่งไม่ได้รับสินค้าก็มี กลายเป็นเรื่องการล่อลวงให้ซื้อไป  📇💷   ☎📧  การช้อปปิ้งออนไลน์จึงต้องระมัดระวังด้วยว่ากำลังติดต่ออยู่กับผู้ขายที่น่าเชื่อถือไหม เราสามารถตรวจสอบประวัติได้จากเบอร์โทร อีเมล ชื่อนามแฝง...

อ่านเพิ่มเติม →


ซื้อของออนไลน์ ด้วยบัตรเครดิตต้องระวังสิ่งเหล่านี้ให้ดี

เขียนโดย Smile-Shopping Admin เมื่อวันที่

💳 ซื้อของออนไลน์ ด้วยบัตรเครดิตต้องระวังสิ่งเหล่านี้ให้ดี                                          📡 ซื้อของออนไลน์ จ่ายเงินออนไลน์ สองคำนี้เป็นที่รู้จักกันดีในยุคนี้ เพราะหลายๆ อย่างก็ทำผ่านระบบออนไลน์กันหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่การค้าขาย และ การทำธุรกรรมการเงินต่างๆ ที่ต้องยอมรับว่ามีความสะดวกเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีสิ่งที่ควรระวังอยู่ในการจ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการในระบบออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต ข้อควรระวังก็เช่น เรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลเรา การใช้จ่ายอัตโนมัติโดยที่เราไม่รู้ก็มี เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นมาแล้วกับผู้ใช้บัตรเครดิตหลายๆ คน   . 📡 การต่อสมาชิกต่างๆ เองแบบอัตโนมัติ 💳 💵 หากว่าเราได้มีสมัครสมาชิกบริการอะไรไว้ก็ควรเช็คให้ดีเรื่องเกี่ยวกับ ค่าใช้จ่ายในการสมัครสมาชิก ระยะเวลาอายุของสมาชิก และที่สำคัญมากๆ คือการต่ออายุสมาชิก ว่าจะมีรายละเอียดอย่างไร เช่น เราต้องทำการยื่นขอต่อสมาชิกเอง หรือ สามารถตั้งให้ต่ออายุอัตโนมัติได้เลย ซึ่งในส่วนการตั้งให้สามารถต่ออายุอัตโนมัติได้นี่แหล่ะที่ต้องระวังให้ดี เพราะระบบจะหักเงินเราทันทีเพื่อทำการต่ออายุสมาชิก ซึ่งบางครั้งเราอาจจะไม่ได้ใช้บริการนี้แล้วก็ได้ จึงลืมที่จะตั้งปิดส่วนนี้ ทำให้เราอาจสูญเสียเงินไปโดยสูญเปล่าก็ได้ เพราะเราไม่ได้ใช้งานนั่นเอง ดังนั้นเมื่อเราไม่ได้มีการใช้งานแล้ว เราก็ไม่ควรลืมที่จะยกเลิกสมาชิกไปเพื่อจะได้ช่วยเราประหยัดเงินตโนมัติโดยที่เราไม่รู้ก็มี เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นมาแล้วกับผู้ใช้บัตรเครดิตหลายๆ คน  💵 . 📑 ข้อมูลบัตรเครดิตเราถูกขโมย    📲 ในโลกออนไลน์ เว็บไซต์หลายๆ เว็บถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกเอาข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลการเงินต่างๆ ของเรา ซึ่งเราควรที่จะมีการเช็คความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ที่เราจะทำธุรกรรมด้วยนั้นว่ามีความน่าเชื่อถือ และมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน  เพราะหากเราใช้งานโดยที่ไม่ระวังสิ่งเหล่านี้ให้ดี เราอาจจะโดนเอาข้อมูลไปได้ และถูกนำข้อมูลไปใช้จนอาจจะทำให้เราสูญเสียเงินจำนวนมากก็ได้ หากเราพบว่าข้อมูลบัตรเครดิตของเรามีการถูกนำไปใช้โดยที่ไม่ใช่เราเป็นผู้ใช้เอง ให้เรารีบแจ้งทางสถาบันการเงินเจ้าของบัตรให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยกันหาทางแก้ไข 📲 . 📋 สมัครปุ๊บตัดเงินปั๊บ 💳 💬  จะสมัครใช้บริการอะไร ก็ควรเช็คให้ดีก่อนนะครับ เพราะว่าบางครั้งหลังจากสมัครเสร็จปุ๊บจะมีการเรียกเก็บค่าบริการทันที โดยไม่สนใจว่าเราจะสมัครสมาชิกเพื่อเข้ามาดูรายละเอียดก่อนหรือเปล่า ไม่สนว่าเราจะมีความต้องการใช้งานจริงๆ หรือไม่ แต่ตัดเงินไว้ก่อน ดังนั้นหากว่าเราสมัครสมาชิกของเว็บไซต์หรือบริการอะไรบนโลกออนไลน์ก็แล้วแต่ หากว่ามีการให้กรอกข้อมูลช่องทางการจ่ายเงินและมีการทำเครื่องหมายว่าสำคัญ (ปกติจะใช้ (*) ดอกจันสีแดงกำกับไว้ว่าสำคัญ และหากไม่ใส่ระบบจะไม่ยอมให้ผ่านไปได้) ก็ควรจะหยุดอ่านให้ดี ทางที่ดีควรจะสอบถามทางเว็บไซต์หรือทางผู้ใช้บริการทันทีว่า มีความสำคัญและจำเป็นอย่างไรจึงต้องมีการบังคับว่าต้องกรอกข้อมูลส่วนนี้ เพราะปกติแล้วการจะกรอกข้อมูลช่องทางการเงินจะให้ใส่ในตอนที่ตัดสินใจจะซื้อสินค้าหรือบริการแล้วเท่านั้น จึงจะมีการขอข้อมูลเพื่อทำธุรกรรม แต่มีการให้กรอกก่อนแบบนี้ก็ควรระวังครับ ว่าจะมีการตัดเงินทันที ซึ่งหากตัดเงินไปแล้วเราได้ใช้ก็ดีไปครับ แต่หากว่าเราไม่ได้ใช้ก็ไม่ต่างอะไรกับการเสียเงินโดยสูญเปล่า 💬 . 💻 เช็คยอดการเงินในการใช้จ่ายทุกครั้ง   💸...

อ่านเพิ่มเติม →


9 เทคนิคจับผิดร้านค้าออนไลน์ เพื่อไม่โดนหลอก

เขียนโดย Smile-Shopping Admin เมื่อวันที่

👉 9 เทคนิคจับผิดร้านค้าออนไลน์ เพื่อไม่โดนหลอก  👈 🏬 ต้องยอมรับว่าสมัยนี้ การจับจ่ายสินค้า ไม่ได้มีเพียงแค่ตามตลาด ห้างสรรพสินค้าเท่านั้น เพราะความเข้าถึงง่ายของเทคโนโลยี ทั้งสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ล้วนแต่สร้างความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าที่ง่าย รวดเร็ว ตัดปัญหาเรื่องของการเดินทาง บางครั้งยังได้สินค้าที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาด เนื่องจากร้านค้าออนไลน์ไม่มีต้นทุนในการเปิดร้าน  จึงทำให้คนในสังคมไทยนิยมจับจ่ายใช้สอยเงินในกระเป๋าผ่านออนไลน์  แม้ว่าการซื้อของผ่านระบบออนไลน์เป็นที่นิยมของคนไทย แต่ในขณะเดียวกันก็กลายเป็นแหล่งโจรของมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาอีกไม่น้อย 📲🖥💷 🛍 ด้วยปัจจัยที่เข้าถึงง่ายสะดวกนี้เอง ทำให้ การซื้อสินค้าออนไลน์เป็นที่นิยมอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในอีกด้านหนึ่ง การเติบโตของธุรกิจออนไลน์ก็ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น ได้รับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือคุณภาพต่ำกว่าที่โฆษณาขายไว้ทางออนไลน์   ได้สินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ หรือไม่ตรงกับความต้องการ รวมไปถึงการโฆษณาเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค จนกลายเป็นปัญหาที่มีการร้องเรียนเข้ามายัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ไม่ต่ำกว่า 200-300 ราย ตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่มีให้เห็นจนชินตา และเพื่อป้องกันการโดนหลอกจากการซื้อสินค้าออนไลน์ จนทำให้ต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก  ❌  . ♻  มีเคล็ดลับเล็กๆ น้อย ฝากไว้เป็นข้อสังเกต ก่อนที่จะตัดใจจ่ายเงินซื้อของออนไลน์ ดังนี้  ♻ 1.นำชื่อ เบอร์โทรศัพท์ หรือ username ของคนขายมา search หาใน  google  หากชื่อนี้เคยหลอกลวงคนอื่นมาก่อน แล้วกลับมาโพสต์ขายของอีก จะมีคนพูดถึงรายละเอียดคดีความของเขาขึ้นมาเลยด้วย 📡 . 2.ให้กดค้นหาชื่อร้านค้า หรือคนขาย .ใน Facebook หรือ Twitter  ตรวจสอบสถานะว่ามีการขายของจริงๆ หรือไม่ เพราะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องมีตัวตัวผ่านเครื่องมือต่างๆ ของโซเชียลแน่นอน 📡 . 3.ลองค้นหาในเว็บไซต์ที่สามารถตรวจสอบตัวตน เช่น  peekyou.com , touchgraph.com/seo หรือ socialmention.com แล้วใส่ชื่อ หรือ username ของผู้ขายลงไป ก็จะเจอข้อมูลมากมายทั้งอีเมล์ ข้อมูลบนเว็บต่างๆ และ Social Network ของเขา 📡 . 4.ตรวจสอบกับผู้ที่เคยซื้อ 📍 ว่าได้รับสินค้าจริงๆหรือไม่?...

อ่านเพิ่มเติม →